การศึกษาปริมาณคาเฟอีนและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในกาแฟปรุงสำเร็จรูปสำหรับลดน้ำหนัก

Primary tabs

Titleการศึกษาปริมาณคาเฟอีนและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในกาแฟปรุงสำเร็จรูปสำหรับลดน้ำหนัก
Publication TypeThesis
Year of Publication2556
Authorsวาลีย์, ทองทา
Degreeวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต
Date Published2557-05-01
Universityมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
Cityพิษณุโลก
Thesis Typeวิทยานิพนธ์/Thesis
Keywordsกาแฟ, กาแฟปรุงสำเร็จรูป, คาเฟอีน, ต้านอนุมูลอิสระ, ปริมาณคาเฟอีน, ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ลดน้ำหนัก
Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการที่เหมาะสมในการสกัดคาเฟอีน ปริมาณคาเฟอีนฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปริมาณกรดคลอโรจินิกและปริมาณกรดฟีนอลิกที่มีในกาแฟปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับลดน้ำหนักที่จำหน่ายในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 28 ตัวอย่าง พบว่า วิธีการไดอะไลซีสเป็นวิธีการที่เหมาะสมในการสกัดคาเฟอีน เนื่องจากมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r2) เท่ากับ 0.99412 และเมื่อตรวจวิเคราะห์หาปริมาณคาเฟอีน พบว่า ปริมาณคาเฟอีนที่ตรวจพบอยู่ในช่วง 4-8 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิกรัม (P≤0.05) มีค่าเฉลี่ย 5.86 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิกรัม เมื่อนำมาประเมินฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธีการ DPPH assay พบว่ามีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดคือ ตัวอย่างที่ 2 มีค่าร้อยละ 79.67 ส่วนปริมาณกรดคลอโรจินิกที่ตรวจพบอยู่ในช่วง424 -1208 มิลิกรัมต่อกิโลกรัม ตัวอย่างที่พบกระคอโรจินิกมากที่สุด คือ ตัวอย่างที่ 2 1 4 มีปริมาณเท่ากับ 1208.19, 1183.23 และ 941.58 มิลิกรัมต่อกิโลกรัมตามลำดับ ตัวอย่างที่พบน้อย คือ ตัวอย่างที่ 23 20 17 มีปริมาณเท่ากับ 424.31 439.51 441.35 มิลิลกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ ส่วนปริมาณกรดฟีนอลิก ตัวอย่างที่มีปริมาณกรดฟีนอลิกมากที่สุดคือ ตัวอย่างที่ 2 มีปริมาณเท่ากับ 3839.02 gGA/Kg รองลงมาคือตัวอย่างที่ 15 และ 9 ซึ่งปริมาณเท่ากับ 3529.43 และ 3491.02 gGA/Kg ซึ่งไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P>0.05) ตัวอย่างที่พบน้อย คือ ตัวอย่าง 14 และ 21 มีปริมาณเท่ากับ 1918.22 gGA/Kg และ 1990.84 gGA/Kg ตามลำดับ

Citation Key48
ไฟล์แนบ: